นมวัวเป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายเพราะในนมวัวนั้นมีแคลเซียมสูง นอกจากนี้ยังมีโปรตีนและวิตามินต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายโดยเฉพาะแคลเซียม แต่หลายคนมักพบกับปัญหาที่ว่าเมื่อโตขึ้นแล้วพบว่าหลังการดื่มนมมีอาการปวดท้อง ท้องอืดหรือแม้กระทั่งทำให้ท้องเสียกันเลยทีเดียว ซึ่งทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าทำไมดื่มนมแล้วจึงเกิดอาการเหล่านั้น ทั้งที่นมนั้นในตอนเด็กๆ ก็ดื่มแล้วไม่เกิดปัญหาอะไร แล้วมันเกิดขึ้นมาจากสาเหตุอะไรกันแน่?

รู้หรือไม่ว่าทำไมกินนมแล้วท้องเสีย

โดยทั่วไปแล้วคนไทย คนแถบเอเซียหรือแถบแอฟริกานั้น พบว่าในวัยเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงช่วงอายุประมาณ 4-5 ปี นั้นจะมีน้ำย่อยสำหรับย่อยน้ำตาลแลตโตส ซึ่งหลังผ่านช่วงอายุ 4-5 ปีไปแล้วน้ำย่อยชนิดนี้จะค่อยๆ ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ จนไม่มีน้ำย่อยที่สามารถย่อยน้ำตาลแลตโตสที่มีอยู่ในนมวัว ส่งผลให้เมื่อดื่มนมเข้าไปแล้วน้ำตาลแลตโตสที่อยู่ในนมวัวจะไม่ถูกย่อยและผ่านไปยังลำไส้ใหญ่ทำให้เกิดการหมักตัวของจุลินทรีย์และแบคทีเรียในบริเวณลำไส่ใหญ่ขึ้น

ซึ่งสาเหตุนี้เองที่ทำให้เกิดกรดและแก๊สเป็นเหตุทำให้เริ่มมีอาการปวดท้อง ท้องอืด แน่นท้อง ผายลมบ่อยและท้องเสียได้ เพราะเหตุนี้เองทำให้หลายๆ คนลดการดื่มนมหรือไม่ดื่มนมวัวอีกเลย แต่อย่างไรก็ตามปัญหาเหล่านี้มีวิธีแก้ไข เพราะร่างกายของเรายังคงต้องการแลเซียม หากขาดการดื่มนมจะทำให้ร่างกายของเราได้นับแคลเซียมที่เพียงพอต่อที่ร่างกายต้องการ ฉะนั้นควรดื่มนมวัวให้ถูกวิธี

ดื่มนมวัวอย่างไรไม่ให้เกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง ท้องเสียหรือมีอาการปวดท้อง

เราควรเริ่มต้นการดื่มนมวัวในปริมาณน้อยๆ เสียก่อน ในวันแรกของการดื่มนมวัวเราควรเริ่มดื่มในปริมาณ 1/4 แก้ว ช่วงอาทิตย์แรก จากนั้นอาทิตย์ที่สองค่อยๆ เพิ่มปริมาณเป็น 1/2 แก้วแล้วจนสามารถดื่มนมได้เต็มแก้วในระยะเวลาต่อมา โดยช่วงเวลาที่ร่างกายจะมาสามารถปรับให้เราสามารถดื่มนมวัวได้ปกตินั้นจะอยู่ประมาณ 14 วัน และในช่วงควรดื่มนมวัวหลังอาหารหรือดื่มไปพร้อมกับการรับประทานอาหารก็ได้ เมื่อร่างกายสามารถย่อยนมได้แล้วจึงสามารถดื่มนมวัวในขณะที่ท้องว่างได้